Mobile Suit Gundam F91
ชื่อภาษาอังกฤษ : Mobile Suit Gundam F91
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 機動戦士ガンダ F91 (คิโดเซนชิ กันดั้ม เอฟฟุ คิว จู อิจิ)
ชื่อภาษาไทย : โมบิลสูทกันดั้ม เอฟ ไนน์วัน
ผู้กำกับ : โทมิโนะ โยชิยุกิ
เขียนบทโดย : สึเนฮิสะ อิโต้ & โทมิโนะ โยชิยุกิ
ออกแบบหุ่นยนต์โดย : โอคาวาระ คุนิโอะ
ผู้ผลิต : Sunrise
จำนวนตอน : 1 ตอนจบ
ออกฉายในโรงภาพยนต์ครั้ง : 16 มีนาคม 1991
จัดจำหน่ายในรูปแบบ DVD ภาคภาษาไทยโดย : DEX
หลังจากการต่อสู้ของ “ยูนิคอร์นกันดั้ม” ในปี UC 0096 ที่เป็นการแสดงพลังของนิวไทป์ออกมาอีกครั้ง
จนนำไปสู่การปรากฎตัวของโมบิลสูทที่ใช้ระบบ Minovsky craft ที่ทำให้เกิดโมบิลสูทที่มีน้ำหนักมากถึง
80 ตัน แต่สามารถทำความเร็วทะลุกำแพงเสียงได้อย่าง “Ξ Gundam” (ไซ กันดั้ม หรืออ่านว่า
คุชชีกันดั้มก็ได้) ในนวนิยาย Mobile Suit Gundam: Hathaway’s Flash (ประกายแสงฮาซาเวย์) ในปี UC 0105
ก็ได้ทำให้รัฐบาลโลกต้องกลับมาทบทวนบทบาทของการพัฒนาโมบิลสูทที่มีขนาดใหญ่โตของ“บริษัท
อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์” ที่ผูกขาดการผลิตโมบิลสูทรุ่นต้นแบบ (Prototype) และ รุ่นยกโหล (Mass Product)มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่หลังช่วงสงครามหนึ่งปีที่มาทำ MS ขายเป็นจริงเป็นจัง จนเกิดเหตุนอกเหนือการควบคุมหลายต่อหลายครั้ง
และนำไปสู่ความสูญเสียทั้งแบบเปิดเผย และทางที่ลับ
ก่อนหน้านี้ ทาง”บริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์”
ก็รับผิดชอบในการขายชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อสังหาริมทรัย์
ไปจนถึงยาสีฟัน!! สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคอวกาศ ก่อนจะมาทำหุ่นยนต์ขายนั่นเอง
ในที่สุดบริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์
ที่เอะอะใครขอซื้อก็ขายให้ ไม่ว่าโจร คนดี คนบ้า หรือใครก็ตามที่เงินถึง
จนเกิดปัญหามากมาย ก็ถูกทางสหพันธ์ฉีกสัญญาในการผลิตโมบิลสูทของอนาไฮม์ทิ้ง
แล้วให้ บริษัท SNRI (เรียกว่า “ซานารี่” หรือ “Strategic Naval Research Institute” กองทุนวิจัยพัฒนายุทธภัณฑ์นาวิกโยธิน)
เข้ามารับช่วงต่อ
ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสหกิจที่ทางสหพันธ์มีส่วนในการลงทุนและควบคุมกิจการ
ซึ่งต่างจากบริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ ที่ทำตัวเหมือนนกสองหัวอย่างที่ผ่านๆมา…
และโปรเจคท์ “F Series” (เอฟ-ซีรี่ยส์) ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยการพัฒนา “Gundam F90″ โมบิลสูทสมรรถนะสูงตัวแรกของ SNRI ที่สามารถติดตั้งแพ็คเสริมต่างๆที่ปรับใช้งานได้หลากหลาย
ซึ่งแนวคิดของการพัฒนา F Series ก็คือ “การทำให้หุ่นตัวเล็กลง แต่ทรงพลังมากขึ้น” โดยโครงสร้างหลักๆแล้ว
จะเหมือนเอาข้อดีต่างๆของหุ่นยุค UC มายำรวมกัน แล้วตีโจทย์คือการย่อส่วนนั่นเอง และการพัฒนาก็มีมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี UC 0123 เรื่องราวของ “Mobile Suit Gundam F91″ ก็เริ่มต้นขึ้น…
เรื่องย่อ
“Mobile Suit Gundam F91″ เป็นการเล่าเรื่องราวของ “ซีบุค อาโน” (Seabook Arno) และเพื่อนๆ ผู้อาศัยอยู่ใน “โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์”
ในขณะที่กำลังหลบหนีจากการโจมตี กลุ่ม “ครอสโบนแวนการ์ด”
ที่มีความปราถนาที่จะก่อตั้ง “จักรวรรดิคอสโมบาบิโลเนีย” (Cosmo Babylonia) และเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบศักดินา
ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ พวกมันก็ได้เข้ามาลักพาตัวเพื่อนของ
ซีบุค อาโน ที่ชื่อ “เซซิลี แฟร์ชาย”(Cecily Fairchild) ซึ่งมีศักดิ์เป็นถึง
หลานสาวของหัวหน้ากลุ่มครอสโบนแวนการ์ด “มิทเชอร์ โรน่า” (Meitzer Ronah) (แต่เจ้าตัวถูกเลี้ยงโดย”เธโอ แฟร์ชาย” ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรม)
ในการบุกครั้งนี้ อาโน
และเพื่อนที่เหลือจึงหนีไปด้วยยานกู้ภัย
และถูกคนของทางกองทัพสหพันธโลกยื้อตัวให้เข้าไปช่วยในสงครามเพื่อแย่งชิง
“โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์” คืนมาแต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วย
และด้วยการที่ซีบุค คือ “นิวไทป์” หรือ “ผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการรับรู้”
จึงถูกทางสหพัธ์กักตัวน้องสาว และเพื่อนๆเอาไว้ที่ยานของสหพันธ์
เพื่อให้ซีบุคขึ้นบังคับโมบิลสูทรุ่นใหม่ของสหพันธ์ที่ชื่อว่า “Gundam F91″ ที่แม่ของเขา “ดร.โมนิก้า อาโน” เป็นผู้ทำการร่วมวิจัยและออกแบบระบบไบโอคอมพิวเตอร์ ออกมาต่อสู้กับครอสโบนแวนการ์ดเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์แบบจำยอม…และก็พบว่า เซซิลี
เป็นนักบินของฝ่ายครอสโบนแวนการ์ดไปซะแล้ว…
ในศึกสุดท้ายของ “สงครามคอสโมบาบิโลเนีย” ซีบุค ได้ขับ F91
เข้าต่อสู้กับ“หน้ากากเหล็ก” หรือ “คารอซโซ่ โรน่า” (Carozzo Ronah) พ่อของเซซิลี ที่ขับโมบิลอารืเมอร์ขนาดยักษ์ “ราเฟรเซีย” (XMA-01 Rafflesia) ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไซโคมิวขั้นสูง จนทำให้ทั้งซีบุค และเซซิเลีย
ไม่สามารถต่อกรใดๆได้เลย
แต่ด้วยความเร็วของระบบ F91 ที่เร็วจนเกิดภาพติดตา และพื้นผิวเหล็กเกิดการลอก
จนดูเหมือนว่าF91แยกร่างได้ (เรียกว่าระบบ MEPE (หรือ Metal Peel-off effect) ก็ทำให้ระบบไซโคมิวมีปัญหาในการตรวจจับวัตถุ
จนคารอซโซหลอนประสาท และยิงใส่ตัวเองในที่สุดเป็นอันจบเรื่องราวไป…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น